Investment

ออมหุ้นแบบ DCA ดีจริงหรือ?

สวัสดีครับคุณผู้อ่านทุกท่าน กลับมาพบกันอีกครั้งในหัวข้อที่ค่อนข้างไปทางเกี่ยวกับการลงทุน 

เนื่องจากพักหลังมานี้ ผมมีเวลาเหลือในแต่ละวันค่อนข้างมาก ประกอบกับได้อ่านหนังสือที่เหมือนจะขัดเกลาให้สามารถจัดระเบียบความคิด และการใช้เวลาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทำให้ได้มีโอกาสได้นั่งฟังและศึกษาข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับการลงทุนในตลาดหุ้นของประเทศไทย

ในหัวข้อนี้จะเป็นการเขียนในความเข้าใจจากประสบการณ์ของผมโดยตรง ถ้าหากข้อมูลบางอย่างผิดพลาด ขออภัยมา ณ​ ที่นี้ครับ

DCA คืออะไร

คำถามนี้น่าจะเป็นคำถามที่ได้ยินบ่อยมากสุดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้เลย เนื่องจากเริ่มมีคนให้ความสนใจกับการออมเงินและการลงทุนเพิ่มมากขึ้น

ซึ่งความหมายของ DCA นั้น คุณสามารถค้นหาเอาได้เลยใน Google เพราะมีคนขยายความไว้อย่างหลากหลาย

สำหรับผมการ DCA ก็คือ การทยอยซื้อสินทรัพย์ด้วยจำนวนเงินเท่าๆกันทุกๆเดือน หรือสัปดาห์ หรือแม้แต่จะเป็นการทยอยซื้อรายวันก็สามารถทำได้เช่นกัน

DCA ไปทำไม

เพราะการลงทุน ก็เปรียบเสมือนกับชีวิต ดังนั้นการลงทุนตลอดชีวิตก็เป็นสิ่งที่มนุษย์สามัญชนทุกคนพึงกระทำ

หากคุณมีเงินเป็นพันล้าน การซื้อทรัพย์สินของมีค่าต่างๆก็ดูเหมือนเป็นเรื่องง่ายไปเสียหมด

กลับกัน หากคุณเป็นมนุษย์เงินเดือน การที่คุณจะสามารถเป็นเจ้าของสินทรัพย์บางอย่างนั้น อาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่คุณจะสามารถทุ่มเงินทั้งหมดที่คุณมีไปกับสิ่งๆเดียว

ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลว่า การทยอยซื้อสะสมหรือการ DCA จึงเป็นคำตอบที่จะทำให้คุณมีทรัพย์สินมีค่าในครอบครองเหมือนกันกับนักลงทุนพันล้าน

DCA อย่างไร

โดยทั่วไปแล้ว การ DCA มักจะเกิดขึ้นกับตลาดหุ้น โดยคุณสามารถเปิดบัญชีหุ้นกับธนาคารใดก็ตามในประเทศไทย หรือจะเปิดบัญชีหุ้นกับธนาคารเดียวกันกับที่ที่คุณมีบัญชีเงินฝากอยู่

หลังจากเปิดบัญชีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คุณก็สามารถเติมเงินเข้าบัญชีเพื่อเริ่มทำการ DCA ได้ทันที

ซึ่งการ DCA โดยทั่วจะไปจะเป็นฟังก์ชันหนึ่งใน Application ยอดนิยมอย่าง “Streaming” 

เมื่อคุณได้เติมเงินเข้าบัญชีหุ้นเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถเริ่มต้น DCA ได้เลย โดยหลักการคร่าวๆคือ คุณสามารถกำหนดได้ว่า

  • คุณจะทยอยซื้อหุ้นตัวไหน
  • คุณจะทยอยซื้อหุ้นตัวนั้น ด้วยจำนวนเงินเท่าไรต่อเดือน (ขั้นต่ำของการซื้อคือ 100 หุ้น เพราะฉะนั้นคำนวณเงินไว้ให้เพียงพอ)
  • คุณอยากให้มีการซื้อหุ้นตัวนั้น ทุกวันที่เท่าใดของเดือน เช่น ทุกวันที่ 1/5/15/25 ของทุกเดือน

หลังจากตั้งค่าเสร็จแล้ว คุณก็มีหน้าที่เพียงแค่รอให้ถึงเวลาที่คุณเลือกไว้ โดยที่คุณต้องอย่าลืมว่าทุกๆวันที่ดังกล่าวนั้นจะมีการตัดเงินจากบัญชีหุ้นของคุณเพื่อ DCA

อย่าลืมที่จะเติมเงินให้เพียงพอสำหรับการ DCA ด้วยนะครับ

DCA ดีจริงหรือ

จริง

  • เพราะการ DCA ย่อมดีกว่าการอยู่เฉยๆ ไม่ลงทุน
  • ถ้าคุณให้เวลาการ DCA ที่มากพอสมควร (เป็นการลงทุนที่ใช้ระยะเวลา)
  • ถ้าคุณคิดจะซื้อสินทรัพย์นั้นๆด้วยเงินก้อน การ DCA ย่อมดีกว่า

ไม่จริง

  • ถ้าคุณต้องการผลตอบแทนสูงๆ ในระยะเวลาสั้นๆ (ผิดหลักการ DCA)
  • ถ้าคุณมีเงินมากพอในการซื้อสินทรัพย์นั้นๆ ไม่จำเป็นต้อง DCA (รวยอยู่แล้ว)
  • ถ้าคุณ DCA กับสินทรัพย์ที่มูลค่าลดลงอย่างต่อเนื่อง (เหมือนเอาเงินไปทิ้ง)

ข้อดีและข้อควรระวังของการ DCA

  • การ DCA ช่วยให้คุณสามารถเป็นเจ้าของสินทรัพย์มูลค่าสูงโดยการทยอยสะสมไปเรื่อยๆได้  (ใช้เงินลงทุนน้อย ใช้เวลายาวนานในการสะสม)
  • การ DCA จะทำให้สินทรัพย์ดังกล่าวมีต้นทุนไม่แพงจนเกินไป เพราะทุกครั้งที่มีการซื้อ ราคาของสินทรัพย์นั้นๆอาจมีความถูกหรือแพง ทำให้ต้นทุนดังกล่าวเป็นต้นทุนโดยเฉลี่ย
  • DCA ยิ่งนานเท่าใด มูลค่าของสินทรัพย์มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเท่านั้น ทำให้ความมั่งคั่งเพิ่มขึ้น
  • แต่อย่าลืมว่า การ DCA ที่ดีจะเกิดขึ้นได้กับสินทรัพย์ที่ดี (จึงต้องมีการศึกษาข้อมูลสินทรัพย์ที่จะทำการ DCA ให้ละเอียดทุกครั้ง)
  • การ DCA กับสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มของมูลค่าลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สูญเสียระยะเวลาในการลงทุน อีกทั้งยังก่อให้เกิดการขาดทุนอีกด้วย

แนะนำการ DCA จากประสบการณ์จริง

และแล้วก็มาถึงหัวใจสำคัญของบทความ ที่ดันมาอยู่เป็นย่อหน้าสุดท้ายของบทความ โดยตัวผมเองนั้นได้ลงสนามทำการออมหุ้นสะสม DCA มาเป็นระยะเวลาหนึ่ง ประมาณ 3-4 เดือน เลยอยากจะมาแบ่งปันประสบการณ์ เพื่อเป็นแนวทางให้สำหรับนักลงทุนมือใหม่

จากที่ได้เขียนไว้ข้างต้นว่า การ DCA ทั่วๆไปนั้นจะต้องมีการกำหนดวันที่ในแต่ละเดือน เพื่อให้ระบบทำการเข้าซื้อสะสมให้กับเรา เงื่อนไขคร่าวๆที่สามารถกำหนดได้เช่น

  • กำหนดให้ DCA ทุกสัปดาห์ (Weekly)
  • กำหนดให้ DCA ทุกเดือน (Monthly) *เป็นที่นิยม
  • กำหนดให้ DCA ทุกวันที่ 1/5/15/25 ของทุกๆเดือน

แน่นอนว่าการ DCA ทั่วไปจะทำให้คุณได้ซื้อหุ้นตัวที่คุณสนใจ ในราคาที่ไม่แพงจนเกินไป แต่เนื่องจากบางครั้ง การซื้อเดือนละครั้งและกำหนดวันที่เพียงวันใดวันหนึ่ง ก็อาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการ DCA 

ทางตัวผู้เขียนได้ทำการ DCA ในรูปแบบปกติ และรูปแบบใหม่ ซึ่งทั้งสองแบบนั้นแยกกันคนละบัญชี ทำให้สามารถเห็นข้อแตกต่างค่อนข้างชัดเจน

DCA แบบปกติ (DCA รายเดือน กำหนดวันที่)

DCA Monthly

จากภาพด้านบน นี่เป็นบัญชีจริงของผมที่ทำการ DCA หุ้นตัวหนึ่งมาเป็นระยะเวลาประมาณ 2-3 เดือน โดย

  • จำนวนหุ้นทั้งหมดที่มี 2300 หน่วย
  • ณ ราคาปัจจุบัน บัญชีนี้มีการขาดทุน 2,583.21 บาท
  • ขาดทุน 8.81%
  • ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 12.75 บาทต่อหน่วย
  • ราคาตลาด ณ​ ปัจจุบันอยู่ที่ 11.63 บาทต่อหน่วย
  • DCA ทุกวันที่ 5 ของเดือน และเข้าซื้อเดือนละ 1 ครั้งเท่านั้น (ซื้อ 1 ไม้)
  • จำนวนเงินที่ DCA อยู่ที่เดือนละ 10,000 บาท

DCA แบบใหม่ (DCA รายวัน)

DCA Daily

จากภาพด้านบน นี่เป็นบัญชีจริงของผมที่ทำการ DCA หุ้นตัวหนึ่งมาเป็นระยะเวลาประมาณ 2-3 เดือนแบบอัตโนมัติ และซื้อเป็นรายวัน โดย

  • จำนวนหุ้นทั้งหมดที่มี 2422 หน่วย
  • ณ ราคาปัจจุบัน บัญชีนี้มีการขาดทุน 859.89 บาท
  • ขาดทุน 2.96%
  • ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 11.99 บาทต่อหน่วย
  • ราคาตลาด ณ​ ปัจจุบันอยู่ที่ 11.63 บาทต่อหน่วย
  • DCA ทุกวัน (เดือนนึงประมาณ 20 ไม้ ไม่รวมเสาร์อาทิตย์และวันที่ตลาดปิด)
  • จำนวนเงินที่ DCA อยู่ที่เดือนละ 10,000 บาท

เปรียบเทียบกันแบบหมัดต่อหมัด

  • การ DCA ย่อมดีกว่าการซื้อโดยจำนวนเงินทั้งหมดในครั้งเดียว (All-in)
  • DCA รายวัน ย่อมได้หุ้นในราคาที่ถูกกว่า DCA รายเดือน (ค่าเฉลี่ยของค่าเฉลี่ยอีกทีหนึ่ง)
  • DCA ถี่กว่า ย่อมได้หุ้นถูกกว่า ส่งผลให้สามารถซื้อหุ้นได้มากกว่าในจำนวนเงินที่เท่ากัน
  • กำไรจากการ DCA รายวันจะสูงกว่า DCA รายเดือน และหากขาดทุนก็จะขาดทุนน้อยกว่า (เปรียบเทียบได้จากภาพข้างบน)
  • เพราะการ DCA รายเดือนโดยกำหนดวันที่ อาจจะมีเหตุการณ์บางอย่างทำให้การซื้อหุ้น ณ​ วันดังกล่าวได้หุ้นที่มีราคาสูง การเฉลี่ยซื้อรายวันจึงช่วยลดต้นทุนได้ดียิ่งขึ้น
  • ออกไม้เยอะกว่า มีโอกาสกำไรมากกว่า ขาดทุนต่ำกว่า เหมือนการเล่นพนัน Slot ถ้าคุณมีเงิน 5000 บาท การเดิมพันในครั้งเดียวด้วยเงินทั้งหมดย่อมมีโอกาสชนะต่ำกว่า การแบ่งเงินออกเป็น 200 บาทจำนวน 25 ไม้

รีวิวคร่าวๆ

  • ระบบออมหุ้นอัตโนมัติเป็นระบบที่สะดวกสบาย และตอบโจทย์กับการลงทุนเป็นอย่างมาก หน้าที่ของคุณมีเพียงอย่างเดียวคือ ทำงานหาเงินให้เพียงพอกับการลงทุน
  • ระบบจะทยอยซื้อให้ทุกวัน คุณแทบไม่ต้องทำอะไรนอกจากรอรับ Email รายงานผลว่าวันนี้ใช้เงินในการซื้อหุ้นไปกี่บาท
  • ทำ DCA แบบเดิมๆดีกว่าการซื้อแบบเทหน้าตัก และการซื้อรายวันยิ่งดีกว่าการซื้อรายเดือนขึ้นไปอีกระดับ
  • หลักการ DCA แบบนี้สามารถไปปรับใช้กับสินทรัพย์อย่างอื่นได้เช่น ผมมีโปรเจคที่จะลองทำการซื้อสะสม Bitcoin โดยเฉลี่ยซื้อเป็นรายวันเช่นเดียวกันกับการออมหุ้น
  • ยิ่งซื้อบ่อย ต้นทุนจะยิ่งถูกลง ขาดทุนน้อยลง กำไรมากขึ้น
  • ทุกวันนี้แทบจะไม่ได้นั่งเฝ้ากระดาน หรือเข้า Sreaming ไปเช็คอะไรเลย คุณจะมีเวลาเหลือสำหรับการทำสิ่งอื่นๆมากยิ่งขึ้น (เหมาะสำหรับการบริหารเวลาอย่างยิ่ง)

สรุป

สำหรับท่านใดที่สนใจการลงทุนในตลาดหุ้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเริ่มลงมือศึกษาและทำความเข้าใจในหุ้นตัวนั้นๆ ยิ่งคุณมีความรู้ความเข้าใจมากเพียงใด ผลลัพธ์ดังกล่าวจะไปปรากฏเมื่อตอนที่หุ้นนั้นเริ่มออกดอกออกผลให้กับคุณในบั้นปลายชีวิต

กลับกันถ้าคุณตัดสินใจเลือกสินทรัพย์ในการออมที่ไม่มีประสิทธิภาพ อาจจะทำให้คุณต้องสูญเสียเงินและที่สำคัญคือ “เวลา” ในการลงทุนไปกับสิ่งนั้น ซึ่งอาจจะทำให้ชีวิตในตอนชรามีปัญหาเรื่องการเงินได้

แต่สำหรับนักลงทุนท่านใดที่ไม่อยากจะเลือกออมหุ้นรายตัว (ซึ่งกูรูหลายท่านมักจะให้มือใหม่หลีกเลี่ยงหุ้นรายตัวเสมอ) ก็สามารถเลือกลงทุนกับ “กองทุนหุ้น” หรือการออม ETF ได้เช่นเดียวกัน (สามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ในอินเตอร์เน็ต)

ท้ายที่สุดที่จะฝากคือ การ DCA คือการใช้เงินลงทุนที่น้อย แต่เน้นการใช้ระยะเวลาที่ยาวนาน จึงจะเห็นผลลัพธ์ที่เด่นชัด เพราะฉะนั้นควรเริ่มลงทุนเสียตั้งแต่ตอนที่อายุยังไม่มาก (เพราะจะมีเวลาในการออมมากกว่าคนที่อายุเยอะๆ) หรือถ้าจะให้ดีคือเริ่มลงทุนนับตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป และการลงทุนที่ดีก็คือการลงทุนไปตลอดชีวิตนั่นเอง 

จากนี้ไปอีก 5-10 ปี ค่อยมาดูกันอีกครั้งว่า เมล็ดพันธุ์ที่ได้หยอดไว้ในวันนี้ จะเติบโตมาให้ดอกให้ผลแก่เราในวันข้างหน้า มากน้อยเพียงใด

ขอขอบคุณและสวัสดี โชคดีกับการลงทุนทุกท่านครับ